วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Honda Brio รถยนต์อีโคคาร์ ที่คุ้มค่าทั้งด้านการออกแบบ การจัดวาง ความสะดวกสบายของโดยสาร ประหยัดเชื้อเพลิงและราคาที่คุ้มค่า



รถยนต์ราคาประหยัดคันละประมาณ 400,000 บาท ของ Honda รุ่น Brio ใหม่ ที่คุ้มค่าทั้งด้านการออกแบบ การจัดวาง ความสะดวกสบายของโดยสาร ประหยัดเชื้อเพลิงและราคาที่คุ้มค่า


Honda Brio เป็นรถยนต์ขนาดเล็กกว่า B-Segment (กลุ่ม Jazz / City) อยู่นิดหน่อย โดย
คู่ต่อสู้ของ Brio ในตลาดโลก คือ Toyota Aygo / Peugeot 107 และ Citroen C1 ไปจนถึง Renault Twingo Volkswagen Lupo อันเป็นรถยนต์ในพิกัด Sub-B Segment (หรือจะเรียกว่า A-Segment))

แต่สำหรับ Honda แล้ว ประเด็นที่เหนือกว่าคือการพัฒนา Brio ให้ผ่านมาตรฐาน รถยนต์ ECO Car ในไทย ซึ่ง รถยนต์ที่จะได้ชื่อว่าเป็น ECO Car ต้องได้มาตรฐานดังนี้

1.ประหยัดเชื้อเพลิง 5 ลิตร / 100 กิโลเมตร
2.ปล่อยไอเสียระดับต่ำตามเกณฑ์มาตรฐาน Euro 4 หรือสูงกว่านั้น
3.ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต้องไม่เกิน 120 กรัม / ระยะทาง 1 กิโลเมตร
4.ระบบความปลอดภัยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งการชนด้านหน้าและด้านข้าง ตามข้อ
กำหนดที่ 94 และ 95 คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ สำหรับยุโรปขององค์การสหประชาชาติ (UN Economic Commission for Europe -- UNECE)

รถยนต์ Honda Brio มีขนาด
1.ความยาว 3,610 มิลลิเมตร
2.กว้าง 1,680 มิลลิเมตร
3.สูง 1,485 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,345 มิลลิเมตร

ภายในห้องโดยสาร
1.ออกแบบให้กว้างขวางพอเพียง เพื่อให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง มีพื้นที่ใช้สอยสูงสุด
2.โทนสีคู่ที่ใช้ช่วยโน้มนำความรู้สึกโล่งกว้าง
3.เบาะนั่งคู่หน้า โอบกระชับ พนักศีรษะ ฝังตัวติดกับพนักพิงเบาะ ส่วนเบาะหลัง สามารถพับได้
4.ประตูบานท้ายช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขนย้ายสิ่งของเข้า-ออกจากพื้นที่เก็บสัมภาระ
5.ขนาด 175 ลิตร (ไม่รวมพื้นที่เมื่อพับเบาะ)
6.พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้านออกแบบให้จับกระชับมือ
7.มาตรวัดเรื่องแสงสีส้ม 3 วง พื้นหลังมาตรวัดสีขาว ตัดกับสีดำ ดูสปอร์ต มีขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน พร้อมจอแสดงผลระดับของน้ำมันเชื้อเพลิง และการขับขี่แบบ LED ซึ่งจะแจ้งระยะทางรวม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย อีกทั้งยังมีไฟแสดงผลการ ขับขี่แบบประหยัด ECO
8.ชุดเครื่องเสียง แบบ 2DIN เล่นเพลงจากช่องเสียบ USB , AUX , ไม่มีเครื่องเล่น CD มาให้ สามารถ
บันทึกคลื่น FM ได้ 30 ช่อง AM บันทึก 30 ช่อง (ส่วนในรุ่น S ไม่มีเครื่องเสียงมาให้แต่อย่างใด)

9.เครื่องปรับอากาศ เป็นแบบเดียวกับ Honda City แต่ ไม่มีไล่ฝ้าด้านหน้า
10.สวิชต์เป็นแบบมือหมุนมาตรฐาน รูปร่างคล้ายด่านเจดีย์สามองค์ทรงหงาย (สำหรับเบรกมือ กุญแจรถ ไฟหน้าและเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย) ระบบล็อกป้องกันเด็ก
11.กุญแจ WAVE ระบบ Immoblizer
12.ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED

เครื่องยนต์ของ Brio เป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส L12A บล็อก 4 สูบ
SOHC i-VTEC 1.2 ลิตร หัวฉีด PGM-FI 90 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร
(11.2 กก.-ม.) ที่ 4,800 รอบ/นาที ดูตัวเลขแล้ว จะมีแรงม้า มากกว่า Nissan March 11 ตัว (79 แรงม้า)
ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า ได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะและอัตโนมัติ อัตราทดแปรผัน CVT ถือเป็นการกลับมา
อีกครั้ง ของเกียร์ CVT สำหรับ Honda เพื่อให้ผ่านมาตรฐาน ข้อกำหนดด้าน ECO Car ของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เกียร์ CVT ลูกนี้ มีระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์มาใช้ พร้อมด้วยระบบล็อกอัพคอนโทรลที่พัฒนาขึ้นใหม่ ช่วย
ถ่ายทอดกำลังได้เต็มที่

นอกจากนี้ Honda จะยังติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งแบบเชิงป้องกันและเชิงรับ อาทิ
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ทั้งฝั่งคนขับ และผู้โดยสาร รวม 2 ใบ
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ซึ่งช่วยป้องกันล้อล็อก ขณะเบรกกะทันหัน และช่วยให้คนขับยังสามารถควบคุมทิศทาง ของรถได้อย่างปลอดภัย
ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) โครงสร้างตัวถังกระจายแรงกระแทกจากการชน G-CON เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงให้แก่ตัวถัง รถในขณะเดียวกัน
เข็มขัดนิรภัยชนิดปรับความตึงอัตโนมัติ

ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ที่จะถูกติดตั้งใน Brio เวอร์ชันไทย ทุกรุ่นย่อย ทุกคัน!!

ราคา Honda Brio
รุ่น S เกียร์ธรรมดา ไว้ที่ 399,900 บาท
รุ่น V เกียร์ธรรมดา 469,500 บาท
รุ่น V เกียร์อัตโนมัติ CVT (รุ่นท็อป) อยู่ที่ 508,500 บาท

มีสีตัวถังให้เลือก
5 สี ได้แก่
1. สีเขียว Fresh Lime
2. สีขาว Taffeta
3. สีฟ้า Cerulian (Metallic)
4. สีเงิน Alabaster
5. สีดำ

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Nissan รุ่น March อีโคคาร์ ที่น่าขับเหมาะกับคนเมืองกรุง เริ่มต้นเพียง 375000 บาท++


Nissan March ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ประหยัดน้ำมัน และ ระบบส่งกำลังแบบ XTRONIC CVT นิสสัน มัชใช้เครื่องยนต์แบบ 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร โดยเครื่องยนต์นี้ใช้ระบบควบคุมการเปิดปิดของวาล์ว ( continuously valve-timing control -CVTC ) ให้กำลัง 59 กิโลวัตต์ หรือ 79 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในปริมาณเพียง 120 กรัมต่อกิโลเมตร ทำให้เกิดมลพิษน้อย Nissan March มีให้เลือกขับทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ออโต้ XTRONIC CVT (Continuously Variable Transmission) สำหรับสาวๆอาจจะชอบเป็นพิเศษ จาก ฟรีเซนต์เตอร์ คุณ เคน ธีระเดช วงพัวพันธ์ ก็เป็นได้ค่ะ ถึงจะเป็นรถเล็กแต่คุณภาพก็ไม่ได้เล็กตามค่ะ ในเรื่องของความปลดกภัย ก็ได้ระดับมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย UNECE 94 และ 95 (การกระแทกด้านหน้าและด้านข้าง) และยังมีถุงลม SRS ในทุกรุ่น ตามด้วยระบบเบรคป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบควบคุมและกระจายแรงเบรคด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และ ระบบเสริมแรงเบรค (BA) ที่สำคัญสำหรับเจ้าของรถหรือท่านที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ติดอุปกรณ์ จีพีเอส ด้วยจะดีมากค่ะ นอกจากจะช่วยนำทางเราแล้วยังช่วยเราตามหารถเจอในกรณีโดนขโมย ได้ทันท่วงทีด้วยค่ะ ลองหาข้อมูล จีพีเอส ที่น่าสนใจได้ที่ www.thaigpsmap.com นะค่ะ

รถยนต์ Nissan รุ่น March มีทั้งหมด 6 รุ่นค่ะ (แบ่งเป็น 4 รุ่นมาตรฐาน และ 2 รุ่นออปชั่นค่ะ มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี) พร้อมราคาเปิดตัวนี้รวม vat แล้วนะค่ะ
1. 1.2 S MT ราคา 375,000 บาท
2. 1.2 E MT ราคา 425,000 บาท
3. 1.2 E CVT ราคา 459,000 บาท
4. 1.2 EL CVT ราคา 489,000 บาท
5. 1.2 V CVT ราคา 507,000 บาท
6. 1.2 VL CVT ราคา 537,000 บาท

Nissan รุ่น March มีสีให้เลือกดังนี้ค่ะ
1. สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ Brilliant Silver
2. สีดำ แบล็ก สตาร์ Black Star
3. สีม่วง คริสตัล ไลแลค Crystal Lilac
4. สีเขียวสปริง กรีน Spring green
5. สีส้ม ซันไลท์ ออเร้นท์ Sunlight orange
6. สีขาว ไวท์ เพิร์ล White pearl

**แต่ในรุ่น 1.2S สามารถเลือกได้ 3 สีคือ สีเงิน, สีดำ และ สีม่วง ค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

gps จีพีเอส หรือ เครื่องหาพิกัดสัญญาณดาวเทียม อุปการณ์เสริมสำหรับที่ห้ามขาด รถยนต์ยุค2010


สำหรับท่านเจ้าของรถที่ชอบเดินทางละก็ ขอแนะนำอุปกรณ์เสริม สำหรับรถยนต์คู่ใจของเราคือ GPS จีพีเอส หรือ เครื่องหาพิกัดสัญญาณดาวเทียมนั้นเองค่ะ เพราะเป็นเครื่องบอกทางพูดได้ที่จะไม่ให้เราหลงทางค่ะ และยังสามารถบอกแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน สถานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล สถานีตำรวจ เป้นต้น ตอนนี้ ตลาดของ GPS จีพีเอส แข่งขันกันด้วยประโยชน์มากมายค่ะ ประโยนชน์อีกด้านสำหรับเครื่อง GPS คือ เจ้า GPS tracking ที่สามารถบองได้ว่า ขณะนี้รถของเราอยู่ที่ไหน เป็นประโยชน์อย่างมากหากรถเราเกิดสูญหายขึ้นมา เพราะเจ้าGPS trackingจะสามารถบอกเราได้ว่าต้องนี้ขโมยได้ขับรถของเราไปที่ไหนแล้ว ทำให้มีโอกาศที่จะได้รถยนต์คู่ใจคืน สูงมากค่ะ ส่วนหากต้องการทราบเกี่ยวกับรายละเอียด สเปก รุ่น และยี่ห้อต่างๆของ GPS จีพีเอส ก็ลองเข้าไปที่ http://www.thaigpsmap.com นะค่ะ มีหลากหลายรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือกพิจารณาเลยละค่ะ

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

"เชอรีคิวคิว" (Chery QQ) จิบน้ำมันแค่ 50 กม./ลิตร คุ้มมากมายในเมืองรถติดอย่างกรุงเทพ


"เชอรีคิวคิว" (Chery QQ) เป็นรถ City car น่ารักน่ารัก ที่ราคาก็น่ารัก ขนาดก็กระทัดรัดน่ารักค่ะ ประหยัดน้ำมันสุดๆด้วยค่ะ
เชอรี คิวคิว
-ใช้เครื่องยนต์แบบเบนซินค่ะ
-ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ แบบ 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ขนาด 1.1 ลิตร 68 แรงม้า
-จ่ายเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีดมัลทิพอย์ทควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์
-ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งแบบ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
-โดดเด่นในเรื่องของประหยัดน้ำมัน รวมไปถึงมีระบบขจัดมลพิษไอเสีย แคทาไลทิค คอนเวอร์เตอร์ แบบ 3 ทาง ผ่านมาตรฐาน ยูโร 3 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ

เชอรี คิวคิว จำหน่ายราคา 379,500 บาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา สำหรับ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ ตั้งราคาไว้ที่ 422,500 บาท

Suzuki Swift City Car จากญี่ปุ่น


Suzuki Swift นับได้ว่าเป็น City Car ที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งค่ะ ด้านประโยชน์ใช่ส้อยอันนี้มากมายค่ะ ประหยัดน้ำมันด้วยค่ะ เป็นคอมแพ็คคาร์ที่ถูกสร้างให้ตรงตามมาตรฐานการผลิตจากยุโรปค่ะ รูปลักษณ์ภายนอกของ New Suzuki Swift ดูล้ำสไตล์ด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ แบบ ‘Cubical Design’ ยุโรปสุดๆค่ะ

เครื่องยนต์ และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของ Suzuki Swift
- เครื่องยนต์ M15A 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมเทคโนโลยี Variable Valve Timing (VVT) เอกสิทธิ์เฉพาะ New Suzuki Swift ให้กำลังสูงสุด 74 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 133 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ให้กำลังและแรงบิดสูงทุกอัตราเร่ง ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างรวดเร็วฉับไว
- เกียร์อัตโนมัติสี่สปีด ตอบสนองฉับไวแม้ในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำค่ะ ขึ้นเนินก็ไม่ต้องกังวลค่ะ
- ความปราดเปรียวคล่องตัวจากเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ มีความสมดุลกับในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเต็มประสิทธิภาพข้อนี้ประหยัดน้ำมัดค่ะ
- ประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม ให้แรงบิดสูง แรงทุกอัตราเร่ง สมรรถนะจากเครื่องยนต์เอกสิทธิ์เฉพาะซูซูกิเท่านั้น
นับว่าเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนชอบรถเล็กๆ ไสตล์ City Car จะบอกว่าเหมาะกับสาวๆที่ขับรถไม่ค่อยเก่งมาก รับรองว่าคันเล็ก ถอยจอดลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าได้สบายๆ โดยไม่มีรอยขีดขวนค่ะ

MAZDA 2 ทีต้อง ZoomZoom


MAZDA 2 เป็นรถ city car ที่มาแรงรับปี 2010 ค่ะ ดูได้จากการเปิดตัวด้วยฟรีเซ็นเตอร์ " เป้ อารักษณ์ " ที่บ่งบอกถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ตรงคอนเซ็ปของ MAZDA 2 อย่างแรงค่ะ mazda 2 ราคา เปิดตัวด้วยราคา ไม่สูงนักค่ะ ราคาเบาๆสำหรับรถเล็ก แบ่งเป็น Class ตามนี้ค่ะ
1.Groove Sport MT (รุ่น S เกียร์ธรรมดา) 535,000 บาท
2.Groove Sport AT (รุ่น S เกียร์ออโต้) 570,000 บาท
3.Spirit Sport AT (รุ่น V ตัวกลาง) 640,000 บาท
4.Maxx Sport AT (รุ่น R ตัว TOP) 690,000 บาท

มาสด้า2 ใหม่ แม้จะเป็นเพียงแค่รถซิตี้คาร์ แต่ก็ได้รับการถ่ายทอดความสปอร์ต จากรถสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่างเช่น มาสด้า RX-8, มาสด้า MX-5 และมาสด้า3 มาแบบเต็มๆ ดังนั้น มาสด้า 2 จึงสวยเด่นอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ ดูเผยๆอาจจะนึกได้ว่าเป็น มาสด้า 3 ย่ิอส่วนพร้อมสโลแกน "การขับขี่สนุกเร้าใจแบบ ซูม-ซูม " ในด้านสมรรถนะการขับขี่ และประโยชน์ใช้สอยภายในรถ ทำให้รถมาสด้า2 ได้รับเลือกให้เป็น "รถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก" ในปี 2551 และในปีเดียวกัน ยังเป็น 1 ใน 3 ที่เข้ารอบสุดท้ายของการมอบรางวัลการออกแบบยนตรกรรมยอดเยี่ยมของโลกเช่นกันค่ะ มีรางวัลมาการันตี ขนาดนี้ ก็ต้องพิจารณากันหน่อยค่ะ
รถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก

นับ ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 มาสด้า2 ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางค่ะ และยังชนะรางวัลมาแล้วมากมายกว่า 51 รางวัลทั่วโลกเลยทีดียว โดยรางวัลที่บอกถึงคุณภาพและคุณสมบัติของมาสด้า2 ได้เป็นอย่างดีคือ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก ประจำปี 2551 (2008 World Car Of The Year)เห็นไหมค่ะ ขอเขาดีจริง เชียร์ออกนอกหน้าไปหรือป่าวค่ะเนี้ย

* Mazda2 ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 47 คนจากนิตยสารรถยนต์ชั้นนำทั่วโลกจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ
* ผ่าน เกณฑ์การตัดสินจากคุณสมบัติกว่า 20 ประการ ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นด้านการออกแบบ สมรรถนะของรถ คุณภาพ ความปลอดภัย ความพึงพอใจของผู้ใช้รถและดีไซน์ และอื่นๆ
* คว้าชัยชนะเหนือรถยนต์กว่า 40 รุ่นจากทั่วโลก
* ได้รับคะแนนสูงสุดในด้านความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ (Value For Money) และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม